![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhQWblBqALLm8CSgjMAZSrnp_HOdXN5btsYgVzTMWA5DF3XNlUbmKUrHVP6NtDMlUG4t6pmIn1t-iMEVyJPR36HyhQ3w85xxBtTgUhND-gfIG-uJx6FbIQkTMBgPeCW7YbyKyrUBiryyeQK/s320/dream.jpg)
มีอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ไม่ว่าในแอฟริกา ทิเบต เม็กซิโก จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ
แต่ทว่าแพร่หลายที่สุดในซีกโลกตะวันออก
สันนิษฐานว่าตำนานกระต่ายในดวงจันทร์น่าจะมีต้นกำเนิดในประเทศอินเดีย ตาม
ตำนานอินเดีย เชื่อกันว่าภาพที่เห็นบนผิวดวงจันทร์คือ เทพแห่งดวงจันทร์
ชื่อจันทรา ผู้ซึ่งถือกระต่ายไว้ในมือ เนื่องจากคำว่ากระต่ายในภาษาสันสกฤต
คือ ศศะ ดังนั้นจึงเรียกดวงจันทร์ว่า ศศิน แปลว่า ซึ่งมีกระต่าย ส่วน
ตำนานจีนเล่าว่า ภาพที่ปรากฏบนดวงจันทร์ คือกระต่ายกำลังตำข้าวในครก
กระต่ายตัวนี้เชื่อกันว่าเป็นผู้รับใช้เซียนหรือผู้วิเศษ
โดยมีหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะ
ใน
นิทานแฝงคติธรรมทางพุทธศาสนาที่เกี่ยวกับกระต่ายบนดวงจันทร์ เล่าว่า
ครั้งหนึ่งมีกระต่าย ลิง นาก และสุนัขจิ้งจอก
สาบานร่วมกันว่าจะไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และบำเพ็ญตนเป็นฤๅษีอยู่ในป่า
พระอินทร์อยากทดสอบในศรัทธาของสัตว์ทั้งสี่
จึงปลอมตัวเป็นพราหมณ์เที่ยวขอบริจาคทาน โดยไปขอจากลิงเป็นตัวแรก
ลิงมอบมะม่วงให้ จากนั้นพราหมณ์ก็ไปขอทานจากนาก
นากถวายปลาซึ่งมาตายเกยตื้นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ
ส่วนสุนัขจิ้งจอกก็ถวายนมหม้อหนึ่งและผลไม้แห้ง
เมื่อ
พราหมณ์เข้าไปขอบริจาคทานจากกระต่าย กระต่ายพูfกับพราหมณ์ว่า
“ข้ากินแต่หญ้าเป็นอาหาร หญ้าก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ กับท่านเลย”
พราหมณ์จึงเอ่ยขึ้นว่า ถ้ากระต่ายบำเพ็ญพรตเป็นฤๅษีที่แท้จริงแล้ว
ขอให้สละชีวิตของตนเพื่อเป็นอาหารแก่พราหมณ์
กระต่ายตอบตกลงทันทีและทำตามที่พราหมณ์ขอร้องว่าให้กระโดดเข้ากองไฟเอง
พราหมณ์จะได้ไม่ต้องลงมือฆ่าและปรุงกระต่ายเป็นอาหาร
กระต่ายปีนขึ้นยืนบนก้อนหินและกระโดดเข้ากองไฟ
ในขณะที่ร่างกระต่ายกำลังจะตกสู่เปลวเพลิงนั้น พราหมณ์ได้คว้าตัวกระต่ายไว้
แล้วเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงว่าคือใคร
พระอินทร์นำกระต่ายไปไว้บนดวงจันทร์เพื่อให้สิ่งมีชีวิตทั้งมวลในโลกได้เห็น
กระต่าย และรับรู้ว่ากระต่ายคือตัวอย่างแห่งการเสียสละตนอันยิ่งใหญ่
นิทาน
แฝงคติธรรมทำนองนี้ยังมีเนื้อเรื่องที่ต่างกันไปบ้างเล็กน้อย
บางเรื่องก็ว่า ขณะที่พระพุทธเจ้าออกแสวงหาสัจธรรมได้หลงทางไปกลางป่า
และมาพบกระต่ายเข้า
กระต่ายถวายตัวเป็นอาหารแด่พระพุทธเจ้าโดยกระโดดเข้ากองไฟ
แต่พระพุทธเจ้าได้แสดงบุญญาภินิหารช่วยชีวิตกระต่ายขึ้นจากไฟ
และนำกระต่ายไปไว้บนดวงจันทร์ อีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า
ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าในร่างของกระต่าย
ยินยอมพลีร่างเป็นอาหารแก่สัตว์ที่กำลังอดอยากหิวโหย อีกเรื่องหนึ่งว่า
ทรงสละตัวเองแก่พระอินทร์
พระอินทร์จึงได้วาดรูปกระต่ายลงบนดวงจันทร์เพื่อเป็นเครื่องรำลึกชั่วนิรัน
ดร์
สำหรับ
ในหมู่ชาวฮอตเทนทอต ชาวพื้นเมืองเร่ร่อนล่าสัตว์ ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา
ตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์ช่วยอธิบายโรคปากแหว่ง (harelip)
ตั้งแต่เกิตของคนเรา
ตามตำนานพระจันทร์ส่งกระต่ายลงมายังโลกเพื่อบอกกับมนุษย์ว่าเมื่อเธอตายจะ
กลับฟื้นขึ้นอีกครั้ง และมนุษย์ก็เช่นกัน
แต่กระต่ายไม่ใส่ใจจึงจำข้อความผิด ๆ ถูก ๆ ไปบอกมนุษย์ว่า
พระจันทร์ตายแล้ว จะไม่ฟื้นคืนมาใหม่ และมนุษย์ก็จะเป็นเช่นเดียวกับเธอ
เมื่อพระจันทร์ทราบว่ากระต่ายทำอะไรลงไป
เธอโกรธมากและพยายามจะใช้ขวานจามหัวกระต่าย
แต่พลาดไปโดนริมฝีปากบนของกระต่ายแทน
เจ้ากระต่ายบาดเจ็บก็ตอบแทนเธอด้วยการข่วนเข้าที่ใบหน้าด้วยอุ้งเล็บของมัน
ทำให้เกิดรอยปื้นดำปรากฏบนดวงจันทร์ดังที่เห็นกันทุกวันนี้
0 comments:
Post a Comment