![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi5dHT6W0aAAYXrjvVno0x7MXKlOH6th1cl6_VgZt5kEwAs2tJY8_n1sDEHVjIYF43O29VCSL5r-ClR3eciKiyL_VfItKfW1uJ_X50mVeRp1ZaE2IxpoH_NJMEpWxihnwF_c2fpkSxdx5AT/s320/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%81.jpg)
เมืองชลบุรีสมัยอดีตโบราณนานมาแล้วนั้นยังไม่มีเขาสามมุกและชายหาดริมทะเลนั้นก็ยังมิได้ขนานนามว่า หาดบางแสน
ชายทะเลบางแสนนั้นในสมัยอดีตกาลเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง
ภายในหมู่บ้านนี้ก็จะมีครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยมั่งคั่ง
และเป็นผู้นำของแห่งหนตำบลนั้น ซึ่งหัวหน้าครอบครัวนี้ก็คือกำนันบ่าย
ซึ่งเป็นกำนันที่ลูกบ้านพากันเคารพนับถือเป็นอย่างดีเสมอมา
กำนันบ่ายเป็นพ่อม่ายมีลูกชายอยู่คนเดียวมีชื่อว่า แสน
ลูกชายของกำนันบ่ายยังอยู่ในวัยรุ่นหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีเป็นที่หมายปองของ
บรรดาสาวๆในหมู่บ้านชาวประมงแห่งนั้น
แต่ทว่าไม่มีสาวใดที่หนุ่มแสนจะถูกตาต้องใจแม้แต่น้อย
นอกจากจะออกทะเลดังเช่นเด็กหนุ่มทั่วไปในหมู่บ้านนั้นแล้ว
ยามว่างหนุ่มแสนก็ชอบที่จะทำว่าวแล้วไปเล่นว่าวที่บริเวณชายหาดตามลำพัง
เสมอๆ
ในวันหนึ่ง
หนุ่มแสนได้ไปเล่นว่าวที่ชายหาดเหมือนอย่างเคย
แต่ปรากฎว่าบ่ายวันนั้นลมแรงจัดได้พัดเอาว่าวปักเป้าของหนุ่มแสนขาดลอยหายไป
หนุ่มแสนได้พยายามปีนป่ายตามโขดหิน
ริมทะเลขึ้นไปบนหน้าผาก็ได้พบว่ามีสาวน้อยคนหนึ่งได้เก็บว่าวของตนเองไว้
สาวน้อยคนนั้นมีชื่อว่า สามมุก เป็นหลานสาวของยายเฒ่าที่ปลูกกระท่อมหลังน้อยๆ อยู่บนหน้าผาริมทะเลนั่นเอง
หนุ่มแสนความจริงก็ได้ยินมานานแล้วว่ายายเฒ่าที่อยู่บนหน้าผามีหลานสาวคน
หนึ่งมาจากเมืองปลาสร้อยมาพำนักอาศัยอยู่ด้วยเป็นสาวน้อยที่หน้าตาสะสวยเป็น
ยิ่งนัก บรรดาหนุ่มๆ ในหมู่บ้านต่างก็พูดถึงสามมุกกันมานานแล้ว
ด้วยความหลงใหลและหมายปอง
เมื่อหนุ่มแสนได้เจอกับสามมุกในบ่ายวันนั้น
ก็รู้สึกถูกตาต้องใจในความงามของสาวน้อยที่ชื่อว่าสามมุกนี้เช่นกัน
สามมุกกับหนุ่มแสนก็ได้ทักทายและพูดคุยกันพอสมควรจากนั้นจึงได้มีการนัดพบ
กันเสมอๆ และได้สนิทสนมกันมากขึ้น
จนในที่สุดทั้งคู่ก็รู้ตัวว่ามีความรักใคร่ในกันและกันเข้าแล้ว
ทุกครั้งที่มานัดพบกันบนหน้าผาแห่งนั้น
ทั้งคู่ได้ใช้เวลาด้วยกันอย่างแสนหวานจนกระทั่งวันหนึ่งแสนและสามมุกก็ได้ใน
สัญญารักต่อกันว่า
ทั้งคู่จะยึดมั่นในความรักไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหากไม่สามารถได้สมรักก็จะ
สังเวยชีวิตด้วยกัน ณ ที่หน้าผาอันเป็นที่พบกันครั้งแรกแห่งนี้
เมื่อได้ให้สัญญาต่อกันแล้วแสนก็ถอดแหวนที่นิ้วของตนสวมให้แก่สามมุก
เพื่อเป็นเครื่องยืนยันความรักที่มีต่อกัน
ไม่ช้าไม่นานนัก
ความสัมพันธ์ของแสนกับสามมุกก็ไม่สามารถเก็บไว้เป็นความลับได้
กำนันบ่ายผู้เป็นพ่อของหนุ่มแสนล่วงรู้เข้าก็โกรธเคืองลูกชายเป็นยิ่งนัก
เนื่องจากกำนันบ่ายได้พยายามไปทาบทามลูกสาวของพ่อค้าผู้มั่งคั่งในหมู่บ้าน
ละแวกใกล้เคียงกันนั้นไว้แล้ว
เพราะอยากให้ลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝาได้แต่งงานมีลูกมีหลานโดยเฉพาะจะต้องได้
เจ้าสาวที่มีฐานะร่ำรวยเหมาะสมกับตนอีกด้วย
แต่สำหรับสามมุกนั้นกำนันบ่ายเห็นว่าเป็นเพียงหลานสาวของยายเฒ่าที่ปลูกระ
ท่อมเล็กๆ พักอาศัยอยู่บนหน้าผามีอาชีพเก็บของในป่าขายเท่านั้น
ไม่ใช่คนที่ถือว่าคู่ควรกันเลยแม้แต่น้อย
กำนันบ่ายได้เรียกแสนผู้เป็นลูกชายเข้าไปหาและได้สั่งกำชับกำชาว่าห้ามมิ
ให้คบกับสามมุกอีกต่อไปถ้าขัดคำสั่งก็จะตัดลูกตัดพ่อกันเลยที่เดียว
นับจากวันนั้นแสนจึงมิได้ขึ้นไปที่หน้าผาเพื่อพบกับสามมุกหญิงผู้เป็นที่รักอีกเลย
สามมุกได้แต่เฝ้ารอคอยอยู่บนหน้าผาทุกๆวัน
และในที่สุดเธอก็ได้ข่าวว่ากำนันบ่ายได้สู่ขอลูกสาวของพ่อค้าที่มีฐานะดีให้
เป็นเจ้าสาวของแสนและจะมีพิธีวิวาห์ในเร็ววันนี้
สามมุกได้แต่โศกเศร้าเสียใจน้ำตารินไหลอยู่ที่หน้าผาทุกย่ำเย็นด้วยคิดว่า
คนรักได้ลืมสิ้นกับคำสัญญาและหมดรักในตัวเธอแล้ว
ฝ่ายแสนนั้นก็ได้แต่ทุกข์ทรมานใจ
แต่ยังมิรู้ว่าจะหาทางออกทางใดได้
เพราะในใจเขานั้นมีแต่สามมุกเท่านั้นไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
ครั้นเมื่อวันวิวาห์มาถึง
ขณะที่แสนกำลังนั่งเคียงข้างอยู่กับเจ้าสาวเพื่อรอรับน้ำสังข์จากแขกผู้มี
เกียรติที่มาร่วมอวยพรนั้น
จู่ๆเมฆฝนก็พัดสะลิ่วปลิวว่อนเต็มท้องฟ้าจนมืดครึ้มอึมครึมไปหมด
พายุพัดอื้ออึงราวกับจะมีพายุฝนพัดกระหน่ำมาในไม่ช้านั้น
ในใจแสนคิดถึงแต่สามมุก และกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดีที่จะหลีกหนีไปให้พ้นจากงานวิวาห์ได้
ขณะที่เขานั่งก้มหน้าพนมมือรอรับน้ำสังข์เคียงข้างกับเจ้าสาวนั้นเองเขาก็
ได้เห็นมือคู่หนึ่งหยิบน้ำสังข์มารินอวยพรให้กับเขา
แต่ทว่าสายน้ำที่รินหลั่งลงมาจากสังข์สู่มือเขานั้น ปรากฎว่ามีแหวนวงหนึ่ง
ไหลออกมากับสายน้ำนั้นด้วย
แหวนวงนั้นตกต้องลงบนมือทำให้เขาต้องรีบเงยหน้าขึ้นทันที
แต่ทวาสาวน้อยผู้เป็นคนรดน้ำสังข์ให้เขานั้นได้วิ่งออกไปจากงานแต่งงานในทันทีทันใด
หนุ่มแสนไม่รอช้ารีบผละลุกขึ้นจากตั่งรดน้ำสังข์วิ่งพรวดออกไปจากงานพิธีวิวาห์ของตนทันที
แม้จะเอ่ยปากตะโกนร้องเรียกสามมุกอย่างไรแต่สามมุกคนรักของเขาก็ยังมิมีทีท่าว่าจะหยุด
เธอวิ่งอย่างสุดแรงเกิดวิ่งหนีขึ้นไปบนหน้าผา
หนุ่มแสนวิ่งตามไปเรื่อยๆท่ามกลางสายฝนที่พรั่งพรูลงมาอย่างหนัก
ครั้นพอขึ้นไปถึงหน้าผาอันเป็นจุดนัดพบเมื่อครั้งที่รักยังหวานชื่นนั้นสาม
มุกก็กระโดดพุ่งตัวลงมาจากหน้าผาสังเวยชีวิตสมกับที่เคยได้ให้คำมั่นสัญญา
กันไว้ในวันวานต่อหน้าต่อตาหนุ่มแสนนั้นเอง
ลมพายุพัดอื้ออึงสายฟ้าแลบแปลบปลาบ
เสียงฟ้าร้องคำรามโครมครือน่ากลัวแสนยืนหยุดนิ่งแสนยืนหยุดนิ่งเหมือนไร้
ชีวิตอยู่บนหน้าผาแห่งนั้นมองลงไปที่ท้องทะเลเบื้องล่างเห็นคลื่นครางครวญ
ปั่นป่วนราวกับทะเลกำลังบ้าคลั่ง
ในไม่ช้าไม่นานนัก
หนุ่มแสนก็กระโจนพุ่งตัวลงจากหน้าผาตามสาวคนรักของตนไปเหมือนจะยืนยันในคำ
มั่นสัญญาที่ตนเองก็ได้เคยให้ไว้กับคนรักว่าจะอุทิศชิวิตสังเวยแด่ความรัก
ที่ไม่สมหวังเช่นกัน
เมื่อกำนันบ่ายและแขกเหรื่อที่มาในงานพิธีพากันวิ่งตามมาดูบนหน้าผาและได้
พบกับโศกนาฏกรรมอันแสนสะเทือนใจเช่นนั้น
ทุกคนก็ถึงกับอึ้งโดยเฉพาะกำนันบ่ายถึงกับหลั่งน้ำเสียใจที่ตนเองเสียใจที่
ตนเองเสมือนกับเป็นคนที่ฆ่าลูกเพราะขัดขวางในความรักของลูก
จนลูกต้องหาทางออกด้วยการสังเวยชีวิตเช่นนั้น
กำนันบ่ายจึงได้ตั้งชื่อหน้าผาของหมู่บ้านชาวประมงนั้นว่า "สามมุก"
และบริเวณหาดทรายริมทะเลเบื้องล่างหน้าผานั้นก็ได้รับการตั้งชื่อว่า
"บางแสน" เพื่อให้ทั้งสองได้อยู่คู่เคียงกันไปชั่วกาลนาน
ทั้งเขาสามมุกและหาดบางแสนล้วนแต่เป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกแห่งความรักของคู่
รักผู้ที่ยึดมั่นในสัญญาเมื่อครั้งอดีตกาลนั่นเอง
0 comments:
Post a Comment